เก่งให้สุดซักทาง
วันนี้เซนเซไปดูหนังเรื่องทรานสฟอร์มเมอร์มาครับ ทั้งๆที่เป็นหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ไม่ค่อยดี คะแนนก็ไม่ค่อยดี แต่สำหรับเซนเซถือว่าเป็นหนังที่สนุก คนที่วิจารณ์ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยดีส่วนมากจะติที่บทไม่มีความลึก แต่สำหรับเซนเซเซนเซไปดูเพราะอยากดูหุ่นยนต์เท่ๆ สู้กันตู้มๆๆๆๆ ครับ และก็ไม่ผิดหวังครับ หุ่นยนต์ออกมาสู้กันเยอะมากๆ แถมมีเครื่องบินรบออกมาเยอะแยะเลยด้วย ดังนั้น สำหรับเซนเซแล้ว หนังเรื่องทรานสฟอร์มเมอร์ภาคนี้ถือว่าสนุกมากครับ เต็มอิ่มจุใจดี ควรได้คะแนนซัก 9/10 หนังหุ่นยนต์ก็ต้องมีหุ่นยนต์เยอะๆสิ
นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการเก่งให้สุดในด้านใดด้านหนึ่ง
นี่เป็นคำสอนที่เซนเซได้ฟังมาจากเจ้านายเก่าท่านหนึ่ง (ที่บริษัทเซนเซจะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งตามวงรอบ จึงมีเจ้านายเก่าหลายคน) ท่านบอกว่าสมัยที่ท่านจบป.โทแล้วเข้าบริษัทแม่นี้แรกๆนั้น ประธานบริษัทสมัยนั้นได้สอนไว้แบบนี้ครับ จงฝึกฝนตนเองให้เก่งด้านใดก็ได้แต่ต้องเก่งด้านนั้นที่สุดในบริษัทให้ได้(บริษัทแม่ของเซนเซเป็นบริษัทใหญ่ที่เก่งในกิจการที่เราทำเป็นอันดับต้นๆของโลก) เพราะคนที่เก่งสุดๆเท่านั้น ที่จะรู้วิธีเก่งสุดๆ ซึ่งคนที่ยังไม่เก่งสุดๆจะยังไม่เข้าใจ
เจ้านายก็เลยให้ความนับถือเซนเซในฐานะล่ามด้วยเช่นกัน เพราะในฐานะล่าม เซนเซก็เก่งสุดๆเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ในบริษัท แต่ในประเทศไทยก็หาคนเก่งกว่าเซนเซได้ไม่มากหรอกครับ ยิ่งถ้าเป็นการล่ามเกี่ยวกับกระบวนการผลิตสินค้าที่บริษัทเซนเซผลิตอยู่(ซึ่งก็ผลิตเก่งที่สุดเป็นลำดับต้นๆของประเทศไทย) ซึ่งเป็นเรื่องที่เซนเซถนัดมาก คงไม่มีล่ามที่สามารถล่ามได้ดีกว่าเซนเซแล้วแหละ
และในฐานะผู้ชม เราก็ควรรู้วิธีชมความงามของสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะงานศิลป์ อย่างที่ยกตัวอย่างเรื่องทรานสฟอร์มเมอร์ เราจะเอาไปเทียบกับหนังที่มีบทซับซ้อนแล้วบอกว่าบทของเรื่องนี้อ่อนเรื่องนี้จึงไม่ดี ก็ดูจะไม่ยุติธรรม สำหรับเซนเซวิธีชมความงามของเรื่องทรานสฟอร์มเมอร์คือ ชมหุ่นยนต์ว่ามันสมจริง ว่ามันเท่ ว่ามันเยอะมาก ต่างหากหละจึงจะเป็นวิธีชมความงามของงานศิลป์ชิ้นนี้ที่ถูกต้อง
และถ้าเรารู้วิธีชมความงามของภาษาญี่ปุ่น เราจะทำคะแนนสอบN1-N2 ได้ดีขึ้นด้วยนะครับ