講師の成績 N1 176/180 คะแนนของผู้สอน
คุณค่า 10 ประการที่คอร์ส Ryansunsensei มอบให้นักเรียน
1. เรียนแล้ว เก่งภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น
เซนเซมองว่าทักษะที่เป็นรากฐานที่สุดในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นก็คือ ทักษะการอ่าน การอ่านและสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้ไม่เพียงแต่จะทำให้เราเข้าใจภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักเรียนสามารถศึกษาความรู้ในด้านที่นักเรียนสนใจได้อีกด้วย ที่ผ่านมา เราได้ช่วยให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่านสูงขึ้นหลายคนแล้ว
2. เรียนแล้วสอบวัดระดับได้คะแนนสูงขึ้น
ในการเรียนการอ่าน เซนเซจะเลือกบทอ่านที่มีความยากเหมาะสมกับระดับของนักเรียน และอ่านไปพร้อมๆกัน เสร็จแล้วให้นักเรียนแปลเป็นภาษาไทยอย่างละเอียด เพื่อพัฒนาความสามารถในการทำความเข้าใจบทความที่อ่าน และสร้างทักษะการอ่าน ในการเรียนการฟัง เซนเซจะอธิบายจุดที่นักเรียนมักฟังผิด และวิธีฝึกฝนเพื่อแก้ไข หลังจากนั้นเซนเซจะอธิบายถึงรูปแบบคำถามของแต่ละระดับ และเพื่อให้นักเรียนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดเท่าที่ความสามารถนักเรียนจะมี เซนเซจะสอนวิธีจดบันทึก และวิธีหาคำตอบของคำถาม ในการเรียนบุงโป เราจะใช้ตำราบุงโปที่เซนเซเขียนขึ้นเอง ซึ่งประกอบด้วยบุงโปของแต่ละระดับมากกว่า 100 รูปประโยค พร้อมด้วยคำอธิบายเป็นภาษาไทย
3. เรียนสนุก
มีนักเรียนบางคนต้องเดินทางมาจาก อยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง เพื่อมาเรียน เซนเซซึ่งระลึกถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่เสมอจึงไม่เพียงแต่พยายามพัฒนาตำราให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังพยายามพัฒนาการสอนอีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น เซนเซพยายามสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนให้สนุกสนานเหมือนโรงเรียนสอนพิเศษที่เซนเซเคยไปเรียน ตอนม.ปลาย
4. เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
คอร์สนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนภาษาญี่ปุ่นของผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นระดับสูงชาวไทย เราเชื่อว่าคอร์สนี้ได้มอบคุณค่าสูงสุดอันแสนคุ้มค่าให้แก่นักเรียน
มีโรงเรียนบางส่วนใช้วิธีสอนโดยการนำตำราสำเร็จรูปมาอ่านให้นักเรียนฟัง อาจารย์ของโรงเรียนเหล่านั้นก็ไม่ต้องเปลืองแรงในการเตรียมตัวมาสอน และไม่ต้องเปลืองเวลาในการอ่านหนังสือหลายเล่มเพื่อจะมาสอนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย และก็ไม่ต้องใช้เวลานอกในการทำความเข้าใจเพื่ออธิบายให้นักเรียนฟังเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็ไม่แปลกที่โรงเรียนเหล่านั้นจะสามารถนำเสนอคอร์สที่ถูกกว่าได้ ถ้าเป็นคอร์สที่ใช้ตำราสำเร็จรูป แล้วก็ค่อยๆเรียนไป เซนเซก็มีเปิดสอนอยู่ในราคาชั่วโมงละ 60 บาท นักเรียนที่สนใจก็ติดต่อสอบถามได้นะครับ
อันที่จริง ในการมาเรียน สิ่งที่นักเรียนจ่ายแพงที่สุดหาใช่ค่าเล่าเรียนใหม่ แต่เป็นเวลาของนักเรียนเองนั่นแหละ ในขณะที่พอถึงวันหยุดเพื่อนๆของนักเรียนก็นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หรือไปกินข้าวกับเพื่อนๆคนอื่นๆ หรือไปเที่ยวผ่อนคลายความเครียด หรือถ้าบริษัทต้องการให้เราไปทำงานในวันหยุดบริษัทก็ต้องจ่ายค่าแรงให้เรา 2 เท่าของวันทำงานปกติ ถ้านักเรียนเป็นล่ามที่ได้เงินเดือน 30,000 บาท ก็อาจกล่าวได้ว่า วันหยุดของนักเรียนมีมูลค่า 2,000 บาท และแม้จะเรียนแค่ 4 ชั่วโมง แต่นักเรียนก็คงเอาเวลาที่เหลือไปรับงานอื่นไม่ได้อยู่ดี นั่นหมายความว่านักเรียนต้องเอาเวลาในวันหยุดที่มีมูลค่า 2,000 บาท มาแลกกับความรู้ที่ได้ในวันนั้น
5. ได้หนังสือที่เซนเซเขียนเอง
หนังสือบุงโปที่เราใช้ในการเรียนเป็นหนังสือบุงโปที่เซนเซเคยอยากได้ เป็นหนังสือที่เซนเซรอมาตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นนับถืงตอนนี้ก็สิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเขียนซักที ที่จริงก่อนจะเปิดคอร์สนี้ เซนเซก็ได้ไปลองอ่านหนังสือบุงโปแทบจะทุกเล่มที่มีอยู่ในประเทศไทยดูแล้ว แต่ว่าไม่มีหนังสือที่ถูกใจเซนเซเลย เซนเซจึงตัดสินใจสั่งซื้อหนังสือจากญี่ปุ่น เพื่อมาเขียนหนังสือด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางบุงโปที่อ่านจากหนังสือ 3-4 เล่มก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ เซนเซก็ต้องไปถามเซนเซชาวญี่ปุ่น หรือไม่ก็ค้นหาเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มอื่นๆอีก เรียกได้ว่า กว่าจะเขียนได้แต่ละประโยคไม่ง่ายเลย แต่เซนเซก็ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับการทำงานหนัก หนังสือที่เซนเซเขียนขึ้นนั้นประทับใจนักเรียนหลายคน และนักเรียนหลายคนก็ชมว่าหนังสืออ่านเข้าใจง่าย สมแล้วที่อุตส่าห์เขียนหนังสือด้วยตัวเอง
6. คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ถ้านักเรียนสามารถสอบผ่านระดับที่สูงขึ้นได้ สามารถทำงานที่ประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ ก็จะทำให้นักเรียนได้เงินเดือนสูงขึ้นด้วย หากนักเรียนสามารถย้ายงานได้ นักเรียนอาจจะได้เงินเดือนเพิ่มประมาณ 10,000 – 30,000 บาท แม้จะไม่ได้ย้ายงาน แต่ก็อาจจะได้เงินเดือนสูงขึ้นประมาณ 0-4,000 บาทก็ได้ (เพราะบางบริษัทก็ไม่มีค่าภาษาญี่ปุ่นให้ แต่อย่างไรก็ตามหากนักเรียนทำงานเก่งขึ้น เงินเดือนนักเรียนก็จะขึ้นเร็วขึ้นอยู่ดี) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ระดับของคุณภาพชีวิตของนักเรียนก็จะดีขึ้น
7. สามารถตอบแทนคืนให้สังคมได้
เมื่อนักเรียนสามารถแปลได้ถูกต้องมากขึ้น เร็วมากขึ้น นักเรียนก็จะสามารถมอบคุณค่าจากงานล่ามในฐานะสะพานเชื่อมเพื่อแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ และความรู้เข้ามาให้แก่สังคมได้มากขึ้น ผลจากการนั้น เซนเซเชื่อว่านักเรียนคงจะได้รับคำชื่นชมจากคนรอบข้างมากขึ้นแน่นอน
8. สามารถประหยัดเวลาได้
สำหรับคอร์สติวสอบวัดระดับจะประกอบด้วยตำราเรียนการอ่านการฟัง และตำราบุงโปที่เซนเซได้เขียนขึ้นเองจากการค้นคว้าตำราหลายเล่ม
คอร์สนี้จะเป็นคอร์สที่นักเรียนได้เรียนอย่างจริงจังเต็ม 40 ชั่วโมง เซนเซไม่ใช้วิธีสอนโดยการเอาข้อสอบเก่ามาให้ทำแล้วก็เฉลยผ่านๆไป ตลอด 40 ชั่วโมงของคอร์สนี้จะเป็นการเรียนเพื่อพัฒนาทักษะแต่ละด้านตามกลยุทธ์ที่อาจารย์ได้วางเอาไว้
นักเรียนที่เรียนจบคอร์สนี้แล้วจะเปรียบเสมือนนักเรียนได้อ่านหนังสือหลายเล่มภายในเวลาอันสั้น หากนักเรียนต้องการจะซื้อหนังสือทั้งหมดมาเรียนด้วยตัวเอง แค่ค่าหนังสืออย่างเดียวก็ 3-4 พันบาทแล้ว แล้วแถมยังต้องใช้เวลาอ่านมากกว่า 200 ชั่วโมงอีก แม้เซนเซจะอ่านหนังสือได้เร็วแล้วก็ตาม ก็ยังต้องใช้เวลาอ่านหลายร้อยชั่วโมง กว่าจะอ่านหนังสือทั้งหมดนั่นจบ หลังจากนั้นก็สรุปออกมาเป็นหนังสือ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาเขียนอีกหลายร้อยชั่วโมง นอกจากนั้น เพื่อการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ เซนเซจะฝึกซ้อมเตรียมสอนอีก 10 กว่าชั่วโมงก่อนการสอนทุกครั้ง เพื่อให้การสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนเก่งได้เร็วภายในเวลาอันสั้น เซนเซได้ใช้เวลาเตรียมตัวหลายร้อยชั่วโมง
9. ประหยัดเงิน
ค่าเรียน 16,000 บาท ของ คอร์ส N1 และค่าเรียน 14,000 บาทสำหรับคอร์ส N2 นั้นหากเฉลี่ยแล้วจะได้อยู่ที่ชั่วโมงละ 400 บาทและ 350 บาทตามลำดับ หากเทียบกับราคาค่าเรียนภาษาญี่ปุ่นทั่วๆไปในประเทศไทยที่อยู่ที่ประมาณ 100 บาทต่อชั่วโมงแล้วอาจจะรู้สึกว่าแพง แต่ว่าเซนเซบอกได้เลยว่าหากคำนึงถึงคุณค่าที่คอร์สนี้ได้มอบให้แก่นักเรียนแล้วต้องถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะว่าหากนักเรียนมาเรียนคอร์สนี้จะทำให้นักเรียนสามารถประหยัดเวลาเรียนได้ หลายร้อยชั่วโมง ถ้านักเรียนเป็นล่ามได้เงินเดือน 30,000 บาท คิดเป็นค่าแรงวันละ 1,000 บาท นั่นหมายความว่านักเรียนทำงาน 8 ชั่วโมงได้ค่าแรง 1,000 บาท หากนักเรียนสามารถประหยัดเวลาเรียนได้ 100 ชั่วโมง ก็หมายความว่านักเรียนสามารถประหยัดเงินได้ 12,500 บาท นอกจากนั้นนักเรียนยังสามารถประหยัดเงินค่าหนังสือได้อีก 3-4 พันบาท แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
10. คืนทุนภายในเวลาไม่นาน
นักเรียนที่สอบผ่านข้อสอบวัดระดับสามารถคืนทุนค่าเล่าเรียนได้อย่างเร็ว 1 เดือน อย่างช้า 1 ปีครึ่ง มีคำกล่าวว่า สำหรับบริษัทญี่ปุ่น ในการพิจารณาว่าจะลงทุนเครื่องจักรหรือไม่ เขาจะพิจารณาว่าถ้าสามารถคืนทุนในภายในเวลา 33 เดือน จะตัดสินใจลงทุนก็ได้ ถือว่าคุ้มค่า ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนเรียนคอร์สนี้จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่งกว่า
สรุปว่า คุณค่าที่คอร์สของไรอั้นสุนเซนเซมอบให้แก่นักเรียนนั้นคุ้มค่ามากกว่ามูลค่าที่นักเรียนจ่ายค่าเรียน
เซนเซมั่นใจว่าคอร์สติวสอบวัดระดับของไรอั้นสุนเซนเซนั้น ได้มอบคุณค่าที่คุ้มค่ามากให้แก่นักเรียน อยากให้นักเรียนไม่ดูแค่ราคาแล้วพิจารณาตามเหตุตามผล คอร์สนี้เป็นคอร์สที่เหมาะสมกับนักเรียนที่อยากเรียนในบรรยากาศสนุกๆแบบที่เรียนกับติวเตอร์ตามสถาบันสอนพิเศษ สำหรับ พี่น้อง นักเรียน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ช่วยสนับสนุน และเป็นกำลังใจจนคอร์สที่น่าภาคภูมิใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เซนเซต้องขอกล่าวคำว่าขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย
————————–
Ryansunsenseiの授業で得られる10の価値とは?
1.日本語が上手になる
先生は日本語能力を上達させるための一番の根本的なスキルは読解スキルであると考えています。また読解はその内容を知ることで日本語だけでなく生徒の興味ある分野の知識を増やすことにもつながると思います。授業では多くの生徒の日本語読解力を上達させることができました。
2.日本語能力試験で高い点数が取れる
読解の授業では生徒のレベルに合う文章を選び一緒に読み、タイ語に詳しく訳して理解させることで文章を理解する力を上達させ読解スキルを築いていきます。聴解の授業では間違いやすい箇所の対策を紹介し、その後それぞれのレベルに出てくる問題のパターンを紹介します。生徒が持つ能力を最大限に発揮させ、最高得点を取るためのメモの取り方やそれぞれの問題のパターンの解き方を教えます。文法の授業ではそれぞれのレベルに合う百以上の文法を日本語とタイ語でまとめた先生の自作文法の教材で勉強します。
3.楽しく勉強できる
バンコクから百~二百キロメートルも離れるアユタヤー、サラブリ、チョンブリ、ラヨンから、わさわざ交通費と時間をかけて通っている生徒もいます。先生はこの事実を常に意識し教材だけでなく教え方のノウハウにも力を入れています。更に授業中の雰囲気を先生の高校時代に通った塾のようにできるだけ楽しく面白くしています。
4.効率的に勉強できる
この授業は日本語を学ぶタイ人上級者のために最大限効率化されたものであり、生徒にとって得であり最大の価値を提供していると思います。
一部の学校では市販の教材を使い生徒に読み聞かせをさせるという教え方をしているそうです。その学校の先生は上手く教えるため、何冊かの本を予習のために読む時間と労力をかけません。また生徒に上手に教えるために頭を整理したり分かりやすく解説するために授業以外の時間を使うこともしていません。そのような学校ではより安い学費を提供できるに違いありません。このような市販品を使ってゆっくりと勉強する講座は先生だって一時間六十バーツで教えています。興味がある生徒は問い合わせてください。
本来、この講座を受けるにあたり生徒が一番高く払っているのは学費ではなく生徒自身の時間です。休みの日に友達は家で休んだり遊んだり食事したりストレス発散ができます。もし休日出勤を求められる場合は会社が普通の給料の二倍を支払ってくれます。月給三万バーツの生徒だと休みの日は二千バーツに相当する価値があるといえます。授業は一日四時間だけとはいえ時間的には他の仕事を受けることはできないと思います。ということは授業に行く日は二千バーツ相当する休日をその日に得られる知識と交換することになります。
5.先生の自作教材がもらえる
授業で使う文法の自作教材は先生が欲しかったものです。日本語を勉強し始めてから十数年も待っていた教材です。なかなか書く人がいませんでした。実はこの講座を開く前に先生はタイ国内で売っているほとんどの日本語文法の教材を本屋で立ち読みしましたが、先生の気に入るものがありませんでした。そのため日本から本を購入し自作の教材を書きました。項目によっては参考書を3-4冊読んでもすっきり分からないこともありました。その時は日本人の先生に聞くなり他の参考書で調べるなりしました。一文一文書くのは簡単ではありませんでした。苦労が報われこの本は多くの生徒を感動させ、非常に分かりやすいという言葉をもらえたので本当にこの本を書いた甲斐がありました。
6.生活が良くなる
もし生徒がより高いレベルの日本語能力試験に合格できれば、より効率の高い仕事ができるようになりより高い給料につながります。転職できる場合は一~三万バーツ給料が上がるかもしれません。同じ会社にいても日本語手当で月ゼロバーツ~四千バーツ(日本語手当がない会社もあるため。しかしより仕事が上手になったら給料もより早く上がるわけです。)そうすると生活水準も向上させることができます。
7.社会に貢献できる
より精度が高く早く通訳ができると通訳としての日タイ関係や知識知恵の交流の架け橋的役割もうまくできるようになりタイ社会への貢献度も増します。その結果、今までよりも周りの人に褒められるようになるでしょう。
8.時間が短縮できる
日本語能力試験対策講座では先生が数冊の参考書を熟読し、できるだけわかりやすくポイントを整理してタイ語で書いた自作教材の文法の本と読解・聴解の2冊の本で構成されています。
本講座では生徒が真剣に勉強できる四十時間であります。ただ適当に過去問題をやらせて適当に解答をいうタイプの教え方ではありません。この講座の四十時間は先生の立てた戦略に従いそれぞれの面のスキルを上達させるために勉強します。
この講座を卒業したら短時間で数冊の本を読んだのと同じことになると思います。もし生徒が自分で全部の本を買って勉強しようとすれば本代だけで三~四千バーツかかります。更に自分で読むのに二百時間以上かかると思います。早読みできる先生でさえ全部の本を読むのに数百時間かかりました。そこから頭を整理して分かりやすく書き出すのに追加で数百時間かかりました。また毎回授業の前に十時間くらい上手く教えられるように予習しています。先生は最も効率よく授業を行うため何百時間もかけて準備しました。
9.お金が節約できる
N1対策講座の一万六千バーツとN2対策講座の一万四千バーツは時間当たり四百バーツと三百五十バーツという計算になります。一般的なタイにおける日本語コースの平均価格、時間当たり百バーツに比べれば高く感じるかもしれません。しかし、この講座が提供している価値を考えればとてもお得であると先生は自信を持って言えます。なぜならばこの講座を勉強することで学習に要する時間を百時間以上短縮できるからです。たとえば月給三万バーツの通訳をしている生徒の場合、日給千バーツという計算になります。それは八時間で千バーツということです。この生徒がもし学習時間を百時間短縮できれば計算上、一万二千五百バーツを節約できることになります。さらに三~四千バーツの本代も節約できます。これだけでもお得です。
10.すぐに元を取れる
日本語能力試験対策講座を受かった生徒は早くて一か月、遅くても一年半で学費の元を取れます。日本の会社が機械や設備投資を検討する時、だいたい三十三か月くらいで元を取れれば投資判断しても良いといわれています。よってこの講座を受けるという投資は絶対に他よりお得な投資だと思います。
結論.Ryansunsenseiの授業の価値は、生徒が支払う価格を大きく上回っている
先生は「ライアンスン先生の日本語能力試験対策講座」が生徒に非常にお得な価値を提供しているという自信があります。値段だけを見ずに生徒には論理的に検討して欲しいです。塾のチューターのような面白さと楽しさも大事にする講座を受けたい生徒にもこの講座はいいと思います。諸兄、諸姉、生徒、関係者の皆様のお陰でこの誇らしい講座を開くことができていると思っておりますのでこの場を借りて感謝の言葉を贈らせていただきます。