วันนี้มีนักเรียนมาปรึกษาเซนเซว่า มีเพื่อนร่วมงานเหมือนจะชอบจับผิดเขา คอยยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา แล้วก็พยายามเอาเรื่องของเขาไปฟ้องคนโน้นคนนี้ ทำให้นักเรียนดูแย่ลงในสายตาคนเหล่านั้น
เซนเซลองนึกย้อนดู นี่เป็นเหตุการณ์ที่เซนเซเคยเจอมาเองหมดเลยนี่นา ฮ่าๆๆๆ เซนเซก็เลยได้คิดว่า สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนที่ี่กำลังเริ่มเป็นจุดเด่น จะต้องเจอ
ในขั้นของการเปลี่ยนสถานะจาก no one(คนธรรมดา) เป็น someone(คนที่มีชื่อเสียง) ในบรรดาคนที่มองเห็นการเปล่งประกายของเรา คนส่วนมากจะตอบสนองด้วยการชื่นชมความงามนั้น โดยเฉพาะคนที่ความโดดเด่นพอๆกันหรือมากกว่าเรา ทุกคนจะชื่นชม และยินดีช่วยเหลือเราเพื่อดึงเราให้เข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม someone
แต่ก็มีบางคน ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็น no one ที่กำลังพยายามที่จะสร้างความโดดเด่น ขึ้นมาเป็น someone แต่ยังทำไม่ได้เหมือนอย่างที่เราทำได้ก็จะมารู้สึกอิจฉาเรา เพราะเรากำลังจะก้าวข้ามหน้าข้ามตาเขา เขาจึงพยายามที่จะจับผิดเรา คอยแซะ คอยจิก คอยกัดเรา ซึ่งในขั้นแรกของการเป็นคนที่เป็นจุดเด่น พอมีคนมาคอยจับผิด จิกกัด เราอาจจะเครียดนะ
ที่จริงไม่ใช่แค่อาจจะหรอกครับ ตอนที่เจอคนจิกกัด เซนเซก็เครียดจริงๆ เคยคิดเหมือนกันนะว่า "เราผิดหรอวะที่เราเก่ง" "เราผิดหรอวะที่เราสร้างประโยชน์ในส่วนรวมได้มากมายมหาศาล" "ถ้าเราไม่เก่งขนาดนี้ ก็คงไม่เป็นจุดเด่น ก็คงไม่มีคนแบบนี้มาคอยจับผิด คอยจิกกัดเราแบบนี้" ซึ่งเป็นความคิดเชิงลบ
ความคิดเชิงลบแบบนี้ของเรานั้น เกิดขึ้นมาจากความคิดเชิงลบของคน no one พวกนั้น แต่ก็มี ณ จุดหนึ่งที่เซนเซคิดได้ว่า เราไม่ควรปล่อยให้คนที่ห่วยกว่าเราทั้งด้านฝีมือ และด้านความคิดมาชักนำอารมณ์และความรู้สึกของเราได้ ดังนั้นเราซึ่งกำลังจะเป็น someone เป็นที่จับตามองของคนจำนวนมาก เราต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้อง ต้องเป็นคนในแบบที่ตัวเองในอนาคตอีก 10 ปี อีก 20 ปี อีก 30 ปี หันกลับมามองแล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเองได้ ต้องพยายามทำตัวให้เป็นคนแบบที่ลูกหลานของเราในอีกร้อยปีข้างหน้าจะกล่าวขานถึงตำนานของเรา
เมื่อคิดได้ดังนั้น เซนเซจึงตัดสินใจเลิกสนใจพวก no one ที่มีความคิดห่วยๆ มีจิตใจริษยาเหล่านั้น เลิกตอบโต้ เลิกหันสายตาไปมองพวกเขา ให้พวกเขาเป็นคนนอกสายตาของเราไปเลย ถ้าพวกเขาจะจิกกัด ก็ปล่อยเขาไป เพราะความคิดเห็นของคนพวกนั้นไร้ค่ายิ่งกว่าขยะเปียกเสียอีก ความคิดของคนที่มีจิตริษยาพวกนั้นถือว่าเป็นขยะมีพิษครับ ต้องปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปกำจัด
แล้วเซนเซก็พยายามมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะเซนเซมั่นใจว่า เมื่อเซนเซเก่งขึ้น เซนเซก็จะสร้างประโยชน์ในส่วนรวมได้มากขึ้น (พวกคนที่มีความคิดริษยาพวกนั้นถ้าคิดให้ดี เขาก็ได้ประโยชน์จากงานของเซนเซด้วยนะ แต่อยู่ที่ว่าเขาจะคิดเป็นหรือเปล่า) แล้วเซนเซก็จะยิ่งโดดเด่นมากขึ้น เมื่อทุกคนจับตามอง ก็ยิ่งทำให้มีคนที่มองเห็นความเก่งของเซนเซ มองเห็นประโยชน์ที่เซนเซสร้างมากขึ้น ก็ยิ่งได้ความชื่นชมมากขึ้นเอง
ดังคำพระที่ว่า มารไม่มีบารมีไม่บังเกิด
ถ้ามีคำใดที่เซนเซสอน แล้วนักเรียนจะจำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
เซนเซขอให้คำนั้นเป็น คำสอนนี้แล้วกันครับ
คนที่กำลังเป็นจุดเด่นยอมมีคนสนใจเยอะ ย่อมมีคนอิจฉาริษยาบ้าง ไม่มีใครโง่พอจะเสียเวลาไปจับผิด จิกกัด อิจฉา ริษยา no one หรอกครับ คุณต้องเก่งระดับหนึ่งจึงจะเริ่มมีคนมาอิจฉาคุณ
แต่เราห้ามไปตอบโต้พวกนั้นครับ someone หนะ เขาไม่ตอบโต้พวก no one หรอกครับ
พอดีมีนักเรียนหลายคนที่กำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งบ้าง กำลังจะเป็นคนดังบ้าง กำลังจะได้เงินเดือนขึ้นเยอะๆบ้าง ก็เลยเขียนมาแบ่งปันกันครับ