วันนี้มีคำถามน่าสนใจเข้ามานะครับ
เลยมาเขียนแชร์หวังว่าจะเป็นประโยชน์
คำถามก็คือ เราควรจะคิดค่าแปลอย่างไรดี
เซนเซรับงานแปลแบบนี้ครับ
◉ ใช้เกณฑ์ปานกลาง คือ เอกสารทางธุรกิจทั่วๆไป ถือว่ามีความยากปานกลาง คิดจากต้นฉบับ
ไทยแปลญี่ปุ่นคิดตัวอักษรละ 0.5 บาท ญี่ปุ่นแปลไทยตัวละ 1 บาท
◉ ถ้าเป็นการพูดคุยกันธรรมดาๆทั่วๆไปถือว่าเป็นเอกสารง่าย คูณ 0.2-0.5
◉ ถ้าเป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง เซนเซแปลสายวิศวะ เคมี วิทยาศาสตร์ กฎหมาย โรงงาน ไคเซน ได้คล่อง สายอื่นๆก็ทำได้แต่ไม่คล่อง ถือว่ายากกว่า คูณ 1.2-1.5
◉ ถ้าเป็นพาวเวอร์พ้อย ตัวหนังสือน้อยๆ สไลด์ละ 100-150 ตัวหนังสือเยอะ 200-300 คิดเฉพาะหน้าที่ต้องแปล
◉ ถ้าคนจ้างต้องการด่วน เช่น 1 หน้าขอภายในวันนั้น หรือ 10-30 หน้าภายใน 1 อาทิตย์ ถือว่าเป็นงานด่วน คิดค่าด่วนอีก 2 เท่า
◉ ถ้า 1 หน้าให้เวลา 1 อาทิตย์ หรือ 10-30 หน้า ให้เวลา 1 เดือน ถือว่าไม่ด่วน ไม่คิดเพิ่ม
◉ ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาเก็บเงินเต็มจำนวนก่อนเริ่มแปล ถ้าเป็นบริษัทขอใบสั่งซื้อหรืออีเมลยืนยันการจ้างงานที่จะใช้เป็นหลักฐานได้ก่อน
ยกตัวอย่างการตีราคา
คำตัดสินศาลฎีกา 2 หน้า 2500 ตัวอักษร ด่วนต้องการพรุ่งนี้
นับตัวอักษร 1,250
X
มีศัพท์เฉพาะทางเยอะ 1.4
X
ด่วน 2
= 3,500
ค่าแปลอาจมีการลดหรือบวกเพิ่มจากนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆอีกเช่น
◆ปริมาณงาน ถ้ามีงานเยอะๆให้เวลานานๆ ก็ถูกลง
◆ความสนิทกับผู้จ้าง
◆วิธีการสั่งงาน พูดดีๆคิดถูกพูดไม่ดีคิดแพง ค่าอดทน
◆จำนวนครั้งที่ต้องเดินทางไปพบผู้จ้าง ค่าเดินทางถือเป็นค่าใช้จ่ายด้วย ถ้าผู้จ้างสั่งงานด้วยโทรศัพท์และอีเมล ก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ถ้าต้องให้ล่ามเข้าไปรับงาน เข้าไปส่งงาน เข้าไปวางบิล เข้าไปรับเช็ค ค่าใช้จ่ายในการเดินทางพวกนี้ก็ต้องเก็บจากลูกค้าด้วย
◆ความร้อนเงินของนักแปล ณ ช่วงเวลานั้นอันนี้สำคัญสุด ตอนว่างๆแล้วอยากได้งานก็คิดถูกอาจลดให้ครึ่งต่อครึ่งเลย (⌒▽⌒)