จากงานวิจัยนี้
ถ้าเราพูดว่าคนที่เกิดในครอบครัวที่มีอันจะกิน จะมั่นใจในความเก่งของตนเองมากกว่าที่มีจริง
ถ้าพูดในทางกลับกันคนที่เกิดในครอบครัวยากจน จะมั่นใจในความเก่งของตนเองน้อยกว่าที่มีจริง
เซนเซก็คิดว่าเซนเซมั่นใจในความเก่งของเซนเซเองมากสุดๆแล้วนะเนี่ย แต่เพราะเซนเซเกิดมาในครอบครัวยากจนมีพี่น้อง 4 คน
แม่เคยต้องต้มมาม่า 2 ห่อกินกัน 6 คนพ่อแม่ลูก เพราะไม่มีเงินซื้อกับข้าวอื่นแล้ว
เซนเซเคยสอนคนญี่ปุ่น 5 ชม. อ่านภาษาไทยได้
เซนเซสอนพี่น้องอีก 3 คนจบผ่าน N1 (พี่น้อง 4คนได้N1 ทั้งบ้าน)
เซนเซสอนน้องจนเรียนได้เกียรตินิยม และได้ทุนมงไปต่อป.โท
เซนเซช่วยแนะนำน้องจนเรียนป.โทที่ญี่ปุ่นได้ GPA4.00 โดยเป็น S ทั้งหมด16 วิชา A 1 วิชา(คนที่ผลการเรียนรองจากน้องเซนเซเป็นคนญี่ปุ่น ได้ S 16 วิชา ถ้านับแบบเหรียญโอลิมปิก น้องเซนเซชนะคนญี่ปุ่นทุกคนในคณะนั้นในรุ่นนั้น) เรียนภาษาญี่ปุ่น ป.โท ที่ญี่ปุ่น ได้ผลการเรียนดีกว่าคนญี่ปุ่น แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว
เซนเซช่วยผลักดันน้องจนได้ทุนค่าใช้จ่ายรายเดือนติดต่อกัน 16 ปีตั้งแต่ ป.4 จนจบ ป.โท จาก ผอ.โรงเรียนเก่า,แกรมมี่,ทุนมงแลกเปลี่ยน,ทุนมงป.โท แต่เป็นเพราะน้องเซนเซเป็นคนแรกของมหาวิทยาลัยนี้ที่ไปเป็นเคงคิวเซแล้วเข้าป.โทได้ภายในเทอมเดียวสถิตินี้เลยหยุดที่ 16ปี ถ้าเข้าไม่ได้ภายในเทอมเดียวก็สามารถเข้าได้ภายใน 3เทอมเหมือนคนอื่นๆ ก็จะได้สถิตินี้เป็น 17 ปี)
เซนเซสอบ N1 ได้ 176 คะแนน โดยที่ได้ 読解 เต็ม 60/60
เซนเซสอนนักเรียนจนได้ 読解 N1 55 คะแนน
ที่เป็นอยู่ตอนนี้เซนเซก็คิดว่าเซนเซมั่นใจในความเก่งของตัวเองมากสุดๆแล้วนะครับเนี่ย มั่นใจจนบางก็ก็รู้สึกหมั่นไส้ตัวเองเหมือนกัน แต่บทความนี้บอกว่าถ้าเซนเซเกิดในครอบครัวคนรวย เซนเซอาจจะมั่นใจในความเก่งของตนเองมากกว่านี้อีกหรือเนี่ย
จะว่าไปน้องชายเซนเซก็ทำตัวโลว์โปรไฟล์จริงๆแหละ ทั้งๆที่สร้างสถิติอะไรเอาไว้มากมาย แต่ไม่ค่อยแสดงออกเลย คงมั่นใจในตัวเองน้อยกว่าความเก่งที่เขามีอยู่จริงแหละ
นักจิตวิทยาชี้ คนชั้นสูงมักเชื่อว่าตัวเองเก่งเกินความเป็นจริง