ขอแชร์เพจเกี่ยวกับไอเดียที่ผมคิดออกเองหรือได้พบมาแล้วผมคิดว่าน่าสนใจครับ มีทั้งที่เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นและไม่เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น
วันนี้แชร์เรื่อง ถ้าเราครองบอลไม่ได้ เราก็ต้องครองเกมให้ได้
ซึ่งเป็นวิธีเล่นเกมในฐานะเป็นฝ่ายรองครับ
ถ้าเราครองบอลไม่ได้ เราก็ต้องครองเกมให้ได้
คำนี้ตอนที่ได้ยินครั้งแรก ผมได้อ่านจากบทสัมภาษณ์ของผู้จัดการทีมฟุตบอลคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ โจเซ มูรินโย แต่ว่าตลอดมาผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่
วันนี้พอดีได้มีโอกาสดูหนังเกาหลีเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องแม่ทัพเรือคนหนึ่งของเกาหลี ใช้เรือรบ 12 ลำ เอาชนะศึกกับญี่ปุ่นซึ่งมีเรือรบ 200 ลำได้
จริงอยู่ที่เป็นหนังเกาหลี จึงอาจจะแต่งเติมให้อวยคนเกาหลีไปบ้าง แต่แก่นของเรื่องก็คงมีเค้าโครงจริงอยู่บ้าง ซึ่งเมื่อได้ดูจบทำให้ผมกลับมาคิดถึงคำกล่าวในชื่อเรื่องนี้อีกครั้งครับ
ถ้าเปรียบการรบทางน้ำเป็นฟุตบอล ลูกฟุตบอลหรือก็คือสิ่งสำคัญที่สุดในเกมการรบทางน้ำนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรือรบและอาวุธ และจำนวนทหาร ในหนังได้กล่าวว่าทางเกาหลีแพ้ศึกก่อนหน้านี้ จึงเหลือเรือรบอยู่เพียง 12 ลำ ซึ่งผู้บัญชาการรบในเรื่องนี้ ใช้เรือรบแค่นี้รับศึกญี่ปุ่นซึ่งมีกองเรือรบขนาด 200 ลำ และภารกิจคือ ยึดเมืองหลวง เกมนี้ฝ่ายเกาหลีไม่ได้ครองบอลแน่นอนครับ
แต่ฝ่ายเกาหลีใช้การครองเกมครับ หรือก็คือการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม หรือการพยายามควบคุมบรรยากาศในขณะทำศึกนั่นเอง
ณ สนามรบทางน้ำนั้น ฝ่ายเกาหลีรู้ว่าฝ่ายญี่ปุ่นต้องการจะเพิ่มความเร็วเรือโดยอาศัยกระแสน้ำเชี่ยวเป็นตัวช่วย เพื่อให้สามารถแล่นเรือไปถึงเมืองหลวงได้เร็วขึ้น แต่กระแสน้ำเชี่ยวนั้นจะไหลถึงแค่ช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละวันเท่านั้น หลังจากนั้นกระแสน้ำจะเปลี่ยนเป็นกระแสน้ำวน ถ้าสามารถต้านกองเรือญี่ปุ่นได้จนถึงเวลาที่กระแสน้ำเปลี่ยนเป็นกระแสน้ำวน กองเรือญี่ปุ่นก็จะผ่านไปไม่ได้
ฝ่ายเกาหลีจึงเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งรับ ต้านทัพญี่ปุ่น จนในที่สุดก็ต้านได้สำเร็จ ในหนังบอกว่า เรือรบเกาหลีไม่จมเลยแม้แต่ลำเดียว เรือรบญี่ปุ่นจมไป 31 ลำ
นี่เป็นอีกหนึ่งในวิธีเล่นเกมครับ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นฝ่ายครองทรัพยากรสำคัญ หรืออาวุธ หรือพลังอำนาจ ที่จะชี้ขาดเปลี่ยนเกมได้ แต่ถ้าหากเราสามารถให้ประโยชน์จากบรรยากาศ เช่นสิ่งแวดล้อม แรงจูงใจของลูกน้องได้ เราก็สามารถเป็นฝ่ายชนะได้เช่นกันครับ