ยิ่งสูงยิ่ง(ต้อง)ใจดี
ตอนที่ 1 ช่วงขวบปีแรกของการทำงาน
ความใจดีต่อคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงาน และจะสำคัญกับเรามากขึ้นเรื่อยๆตามระดับที่สูงขึ้นของการทำงาน
ชีวิตการทำงานของคนเราส่วนมากจะเริ่มต้นเมื่อเลิกเรียน ไม่ว่าจะเลิกเรียนเพราะเรียนจบ หรือเพราะเริ่มรู้ตัวว่าเรียนไปอย่างไรก็ไม่จบ หรือเรียนจนถึงวุฒิอะไรก็ตาม เมื่อเราเลิกเรียนแล้ว เราก็ต้องเริ่มทำงานครับ
ข่าวดีก็คือ สิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วงแรกของการทำงานก็คือ เราต้องหาเงินเองแล้ว บางคนก็หาไว้ใช้เอง บางคนก็แบ่งพ่อแม่ใช้ด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนส่วนมากเมื่อเริ่มทำงานแล้วเราจะมีเงินใช้มากกว่าตอนเรียน
ส่วนข่าวร้ายก็คือ การเข้าไปทำงานในฐานะน้องใหม่ทำให้เราอึดอัดพอสมควรเลย เมื่อเราได้ค้นพบว่า ความรู้ที่ได้มาจากตอนเรียน ส่วนมากยังไม่พอใช้ในการทำงาน เราต้องมาเรียนรู้เพิ่มจากรุ่นพี่ในบริษัทใหม่แทบทั้งหมด ความรู้สึกตอนนี้จะน่าอึดอัดมาก เพราะเราต้องอยู่ในสถานะอ่อนสุด เก่งน้อยสุด ทำอะไรยังไม่เป็น รู้สึกตนเองไร้ค่า รู้สึกหดหู่ ไม่มีพลังใจ ยิ่งคนที่เรียนเก่งมากเท่าไหร่จะยิ่งมีความรู้สึกแบบนี้รุนแรงขึ้น เพราะความแตกต่างของสถานะในสองบริบทมีมากขึ้น อย่างตอนเราที่เราเรียนอยู่ ถ้าเราเรียนเก่งเพื่อนๆก็จะให้การยอมรับนับถือ มีอะไรต้องมาถามเรา มาง้อเรา แต่ในที่ทำงานเราต้องกลายเป็นคนไม่เก่ง ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมรับนับถือเราเลย ไม่มีใครมาถาม มาง้อเรา กลายเป็นเราที่ต้องไปง้อคนอื่น ถามคนอื่นแทน สำหรับคนที่เรียนไม่เก่ง ก็ไม่เคยได้รับการยอมรับนับถืออะไรแบบนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นนักเรียนที่สมัยเรียนเรียนไม่ค่อยเก่ง จะปรับตัวเข้ากับสถานะใหม่ได้ง่ายกว่าครับ เพราะมีความแตกต่างน้อย
นอกจากเรื่องความรู้สึกหดหู่แล้ว ยังมีสิ่งที่แตกต่างอย่างมากระหว่างตอนเรียนกับตอนทำงานอีกก็คือ กฎบริษัทนั้นเข้มงวดกว่ากฎโรงเรียนมาก ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะ ตอนเรียนเราจ่ายเงินเพื่อไปเรียน แต่ตอนทำงานเราไปทำงานเพื่อรับเงิน
จะบอกว่าในช่วงปีแรกของการทำงานเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเราคือการปรับตัวเข้ากับสังคมของคนทำงานให้ได้ก็ได้ครับ ปรับตัวให้ได้ก่อนค่อยไปคิดเรื่องอื่น