วันก่อนเซนเซได้เข้าอบรมเรื่อง IE
ซึ่งอาจารย์ที่มาสอนก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สอนเก่งมาก
ช่วงนี้โชคดี บริษัทจ้างแต่อาจารย์เก่งๆมาสอน และเราได้มีโอกาสเรียน
ผู้เรียนอย่างเรา เวลาเรียนๆไปจะรู้ได้เลยว่า อาจารย์ที่กำลังสอนเราอยู่นั้นเขาสอนเก่งไหม ทำงานเก่งไหม
ทักษะการสอนเก่ง กับทักษะการทำงานเก่ง นั้นมันคนละทักษะกัน และไม่ได้มีความแปรผันตรง หรือแปลผกผันต่อกัน
ดังนั้น ในโลกนี้จะมีทั้งคนที่
สอนไม่เก่ง และ ทำงานไม่เก่ง
สอนเก่ง แต่ ทำงานไม่เก่ง
สอนไม่เก่ง แต่ ทำงานเก่ง
สอนเก่ง และ ทำงานเก่ง
สิ่งที่เซนเซใช้ในการสังเกตว่าอาจารย์คนไหนสอนเก่งหรือไม่ เซนเซจะสังเกตจากการบรรยายว่าสอดคล้องกับเอกสารที่สอนหรือไม่ ถ้าอาจารย์ที่สอนเก่ง จะสอนไปตามเอกสาร ไม่ค่อยมีบรรยายนอกเรื่อง ยกเว้นเล่าเรื่องตลกเพื่อคลายเครียดให้นักเรียน
และการบรรยายของเขาจะสามารถจบตามเวลาได้ เพราะในการจะบรรยาย ให้จบเนื้อหาที่เตรียมมาทั้งหมด และจบตรงตามเวลานั้นถือว่าต้องใช้เทคนิคในการฝึกขั้นสูง
อีกทั้งอาจารย์ที่สอนเก่งเหมือนจะรู้ว่าเนื้อหาตรงไหนยาก เขาก็จะมีการบรรยายลงรายละเอียด หรือเตรียมรูป เตรียมวีดีโอ หรือสื่อต่างๆ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ส่วนเรื่องการทำงานเก่ง เซนเซจะสังเกตจากการตอบคำถาม ว่าสามารถตอบคำถามได้ชัดเจนไหม และคำตอบของเขาได้แสดงให้เห็นเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นได้หรือไม่ คนที่ทำงานมานาน และทำงานเก่งพอ จะมีเทคนิคพวกนี้เยอะมาก เพราะเทคนิคพวกนี้คือสิ่งที่จะช่วยสร้างผลงานที่แตกต่างได้ แต่ว่า...ทุกเทคนิคย่อมมีข้อจำกัด คนที่ทำงานเก่งจะรู้ว่าเทคนิคของเขานั้นใช้ได้ตอนไหน และใช้ไม่ได้ตอนไหน
แต่ว่า...กว่าผู้เรียนอย่างเราจะรู้ว่าอาจารย์เขาสอนเก่งหรือไม่ ก็ต้องดูตอนจบคอร์สนั่นแหละ ว่าสอนจบทุกเนื้อหา ภายในเวลาที่กำหนดไหม และในระหว่างคอร์สสามารถตอบคำถามที่ช่วยให้เทคนิคที่เป็นประโยชน์ในการทำงานได้หรือไม่
ถ้าเราสามารถรู้ได้ก่อนว่าอาจารย์คนไหนสอนเก่ง และทำงานเก่งด้วย เราย่อมอยากจะให้เขามาสอนใช่ไหมหละครับ นี่คือสิ่งที่ผมอยากรู้
ปล.ในการเรียนเซนเซทำคะแนนสอบก่อนเรียน และสอบหลังเรียนได้สูงสุดทั้งสองรอบ 555 เป็นล่ามแต่ทำคะแนนได้ไม่อายวิศวกรเลย