ในการทำงานล่าม เวลาต้องล่ามให้คนญี่ปุ่นที่พอฟังภาษาไทยออกนิดหน่อย หรือคนไทยที่พอฟังภาษาญี่ปุ่นออกนิดหน่อย เพื่อนๆ นักเรียน คงเคยโดนตำหนิ"เรื่องแปลไม่ครบ"เหมือนกันใช่ไหมหละครับ อันที่จริงผมก็เคยโดนครับ
วิธีแก้ที่ผมใช้แก้ปัญหานี้คือ คนให้แปล "เฮ้ยน้อง แปลไม่ครบนี่" ผมจะตอบกลับเขาไปว่า "ขอโทษด้วยครับพี่ ถ้างั้นพี่พูดใหม่อีกทีเดียวผมจะแปลอีกครั้ง ให้ครบๆเลยครับ" เพื่อแสดงให้เขาเห็นความตั้งใจของเราที่จะแปลสิ่งที่เขาพูดให้ "ครบ"
พอถึงตรงนี้ ญี่ปุ่นจะหยุดพูด เพราะสังเกตเห็นว่าล่ามกับผู้พูดอีกฝ่ายยังคุยกันอยู่ ผมจะรีบหันไปอธิบายกับชาวญี่ปุ่นว่า "彼が言ったこと全部通訳しなかったって言っているんで、もう一回言っていただいて、もう一回通訳させていただきたいと思います。” ญี่ปุ่นพอได้ฟังเราพูดแบบนี้ เขาก็จะตั้งใจฟัง เราก็ตั้งใจฟัง คนพูดคนไทยก็ได้พูดใหม่ เราก็แปลใหม่ให้ "ครบ" ทุกคนก็ แฮปปี้
นี่คือหนึ่งตัวอย่างในการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในวิกฤติที่เรากำลังเผชิญอยู่คือการถูกตำหนิว่า ล่ามไม่ครบ เราได้ตอบรับความคิดเห็นนั้นอย่างจริงใจและแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่จะแก้ไขข้อบกพร่องนั้น
กลับกันถ้าเราไปพยายามทะเลาะกับคนที่ตำหนิเราแบบตัวอย่างนี้ "เฮ้ยน้อง แปลไม่ครบนี่" เราไปตอบกลับเขาว่า "หรือถ้าพี่คิดว่าพี่จะแปลเก่งกว่าผมพี่ก็มาแปลเองสิ" กลายเป็นทะเลาะกันไป ไม่มีประโยชน์
หลักการที่ผมยึดถือตลอดในการทำงานคือ อย่าไปทะเลาะกับใคร ยิ่งตอนนี้มีลูกแล้ว ใจเย็นลงเยอะครับ
ในตอนต่อไป...ผมจะมาเขียนว่า ทำไมล่ามจึงไม่ต้องกลัวคำตำหนิที่ว่า "แปลไม่ครบ" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับล่ามทุกๆท่านครับ เพราะผมเชื่อว่า พลังใจที่เข้มแข็งจะนำมาซึ่งพลังกายที่แข็งแกร่งครับ