รู้ไหมครับว่า การบรรลุนั้นมันง่ายกว่าที่คิด
แค่เราลงมือทำ โลกนี้ก็พร้อมจะเข้าข้างพวกเราแล้วครับ
Ryan Sun's Idea
เป้าหมายใหญ่บรรลุได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
ในช่วงปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ คงมีหลายคนที่ถือโอกาสตั้งเป้าหมายในปีใหม่ให้กับตนเอง
ไม่ว่าจะตั้งเป้าหมายใหญ่ขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ ระยะเวลาที่เราต้องใช้ในการโฟกัสกับเป้าหมายนั้น
เพราะการตั้งเป้าหมายใดๆ เรามักจะเริ่มจากดูความต้องการของตนเองว่าเราต้องการให้สภาพต่างๆเปลี่ยนแปลงดีขึ้น
แล้วกำหนดวิธีการ และกำหนดกาที่จะบรรลุความต้องการนั้นลงไป เพื่อให้กลายเป็นเป้าหมายเป้าหมายที่ไม่ได้มีการกำหนดวิธีการ และกำหนดการนั้นไม่เรียกว่าเป้าหมาย แต่เรียกว่าความต้องการ
ดังนั้น เป้าหมายส่วนมากของเรามักเป็นสิ่งที่ เราต้องลงมือทำเอง ทำด้วยความพยายามจึงจะสำเร็จได้
คงไม่มีใครตั้งเป้าหมายประมาณว่า ภายในปีนี้ฉันจะต้องถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงิน 30ล้าน หรอกใช่ไหมหละครับ เพราะเป้าหมายแบบนี้เป็นสิ่งที่เราทำเองไม่ได้
ต้องแล้งแต่ดวง แต่ถ้าใครอยากถูกล็อตเตอรี่ ก็ต้องซื้อเป็นประจำนะครับ เขาเรียกว่าเป็นการเปิดประตูดวงทีนี้ เป้าหมายที่ดีต้องเป็นสิ่งที่เราทำเองได้ และต้องเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ความพยายามสูงพอสมควร และนานพอสมควรจึงจะบรรลุได้
ความมุ่งมั่นจดจ่อกับเป้าหมายต่างๆนั้นเป็นเวลานานพอนั้นถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมาย
ถึงตรงนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้อ่านหลายๆท่านทราบดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมจะเขียนจากนี้ไป คือสิ่งที่ผมได้ค้นพบเมื่อได้จดจ่อกับเป้าหมายหนึ่งมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
ซึ่งการค้นพบนี้ช่วยให้ผมลดความกดดันต่อการบรรลุเป้าหมายลงไปได้มากเลยครับ
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าเป้าหมายที่ผมกำลังจดจ่ออยู่นั้น มันไม่ได้ยากอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรก
มันช่วยให้ผมรู้สึกว่า ผมสามารถตั้งเป้าหมายอะไรก็ได้ และผมจะทำเป้าหมายนั้นได้สำเร็จด้วย
สิ่งที่ผมค้นพบนั่นก็คือ การทำผิดแผนบ้างในบางครั้งไม่ได้ส่งผลให้เป้าหมายของเราล้มเหลวได้ง่ายดายอะไรขนาดนั้นนั่นเองครับ
การทำผิดแผนบ้างในบางครั้งไม่ได้ส่งผลให้เป้าหมายของเราล้มเหลวได้เลย ยิ่งเราก้าวมาไกลจากจุดเริ่มต้นเท่าไร การทำผิดแผนยิ่งส่งผลต่อความล้มเหลวของเป้าหมายของเราน้อยลงเท่านั้น
เปรียบเสมือนเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งขึ้นแล้วนั่นเอง
เมื่อตอนที่ผมเริ่มมุ่งสู่เป้าหมายครั้งแรก ผมกลัวครับ ผมกลัวว่าถ้าผมพยายามไปแล้วผมทำผิดพลาดกลางครัน ความพยายามที่ผ่านมาจะสูญเปล่า
และหากทุกอย่างมันพังลง ผมคงกลับมาที่จุดเริ่มต้นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความรู้สึกแย่กับตัวเอง ที่ล้มเหลวอีกครั้งแล้ว
ผมกลัวจนรู้สึกว่าไม่อยากเริ่มต้นโครงการนี้เลย
แต่ในที่สุดผมก็เริ่มต้นทำมันครับ
และก็อย่างที่ผมคิดครับ ผมผิดแผนภายใน 7 วันแรก
ใช่ครับ ผมห่วยเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้แต่แรกเลยแต่สิ่งที่ไม่เหมือนที่คิดไว้ก็คือ แม้ผมจะผิดแผนเมื่อวันที่ 7 แต่ผมก็กลับมาอยู่ในแผนเดิมได้ภายใน 4 วัน และอีกไม่กี่วันผมก็ผิดแผนอีก แต่คราวนี้ ผมกลับมาอยู่ในเส้นทางเดิมได้เร็วขึ้น
ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวผมเองนั้นอยู่ในแผนได้นานขึ้น และแม้จะหลุดจากแผนไปบางครั้ง แต่ตราบใดที่ผมยังจดจ่อกับเป้าหมายนั้นอยู่ผมก็ยังกลับเข้าสู่เส้นทางมุ่งสู่ความสำเร็จได้เรื่อยๆ
แม้ผมจะห่วย แต่ธรรมชาติก็ไม่ได้ใจร้ายกับผมขนาดนั้นครับ
ตอนนี้ผมนึกถึงสุภาษิตจีนที่ว่า หนทางหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก
แค่เริ่มต้น เราก็ใกล้ความสำเร็จมากขึ้นแล้วครับ
ให้ทายว่า เป้าหมายที่ตอนนี้ผมมุ่งสู่คืออะไร
แล้วขอถามแฟนเพจทุกคนด้วยครับว่า คุณมีความต้องการอะไรบ้างไหมครับ
แล้วพร้อมจะทำให้มันกลายเป็นเป้าหมาย โดยการกำหนดวิธีการ และกำหนดเสร็จ แล้วหรือยังครับ
เมื่อพร้อมแล้วก็ เริ่มต้นเลยนะครับ สู้ไปด้วยกันครับ