บทความที่เขียนไว้นานแล้วครับ

แต่ผมเชื่อว่า วันนี้ก็ยังมีประโยชน์กับคนที่กำลังอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่

914

เทคนิคการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้เก่ง

หลังการประกาศคะแนนครั้งล่าสุดก็มีคำถามกันเข้ามานะครับว่า
อยากรู้วิธีเรียนภาษาญี่ปุ่นในแบบไรอั้นสุนเซนเซ

ดังนั้น วันนี้ผมจึงจะมาเขียนเกี่ยวกับเทคนิคการเรียนในแบบของผมให้อ่านกันนะครับ

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า เราจะเรียนภาษาญี่ปุ่นไปเพื่ออะไร อย่างเช่น เพื่อจะอ่านการ์ตูน ดูละคร ศึกษาเอกสาร หรือเรียนไปเพื่อทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานล่าม งานไกด์ หรืองานหน้าที่อื่นๆที่ไม่ใช่ล่ามแต่ว่าอยู่ในบริษัทญี่ปุ่นอย่างเช่น วิศวกร บัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ขายของให้คนญี่ปุ่น
เมื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนได้แล้ว เราก็เลือกวิธีเรียนที่เหมาะสมได้
สำหรับไรอั้นสุนเซนเซ ตอนแรกเรียนภาษาญี่ปุ่นโดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะเข้ามหาวิทยาลัย และเมื่อได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ตั้งเป้าหมายศึกษาภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองต่อ เพื่อเป็นล่าม แต่พอให้มีโอกาสสอนภาษาไทยให้คนญี่ปุ่นก็รู้สึกชอบการสอนก็เลยเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทย เพื่อจะได้อธิบายหลักภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ ต่อมาเมื่อเรียนจบกลับไทยมาเป็นล่าม ผมก็ตั้งเป้าหมายเป็นล่ามที่เก่งสุดยอด ดังนั้น ผมจึงตั้งเป้าหมายเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เพื่อการเป็นล่ามที่เก่งสุดยอด และเมื่อปีก่อนหลังจากที่ทนเสียงรบเร้าจากคนรอบข้างไม่ไหว ผมจึงได้เริ่มสอนคอร์สติว N1 และ N2 ผมจึงเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นระดับสูงอีกครั้ง
ซึ่งแต่ละเป้าหมาย ก็มีวิธีการเรียนไม่เหมือนกัน โดยในบทความนี้จะเน้นไปเฉพาะการเรียนเพื่อทำงานนะครับ ทั้งการทำงานล่าม และการทำงานตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ล่าม

2. เลือกวิธีเรียนภาษาญี่ปุ่นที่สอดคล้องกับเป้าหมาย
ในที่นี้ผมจะเขียนวิธีเรียนภาษาญี่ปุ่นเฉพาะสำหรับคนที่เรียนเพื่อทำงานนะครับ
สำหรับคนทำงาน ส่วนมากเมื่อสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นผ่านระดับที่สูงขึ้นก็จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น หรือบางบริษัทก็มีกำหนดเลยว่า ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับใดขึ้นไป จึงจะมีโอกาสได้เป็นผู้จัดการ ในกรณีแบบนี้ ผู้เรียนจำเป็นต้องเรียนคู่ขนานกันไปคือ เรียนเพื่อให้สอบวัดระดับผ่าน และเรียนเพื่อให้สามารถอธิบายเรื่องราว เหตุการณ์ สิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับบริษัทตนเองได้ดีขึ้นด้วย เพราะเมื่อเราขึ้นเป็นผู้บริหารแล้ว เรามักจะมีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลต่างๆไปยังบริษัทแม่เป็นประจำ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเรียนทั้งสองส่วนไปด้วยกัน
ดังนั้นเราจึงควรเลือกวิธีเรียนที่เหมาะสมกับเป้าหมายแต่ละข้อดังนี้คือ
2.1 วิธีเรียนเพื่อให้สอบวัดระดับผ่าน
อันนี้ผมใช้วิธีซื้อหนังสือหลายๆเล่มมาอ่านเอง หนังสือทั้งหมดที่ผมซื้อมาเพื่อมาเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยวิธีอ่านเองนั้นรวมๆกันก็น่าจะหลายหมื่นเยนแล้ว บางเล่มซื้อมาแล้วไม่ใช่แนวก็เสียดายเงินเปล่าๆ บางเล่มซื้อมาแล้วยากเกิน ก็อ่านไม่รู้เรื่อง ต้องไปอ่านเล่มอื่นก่อน 3-4 เล่มค่อยย้อนกลับมาอ่านใหม่จึงจะเข้าใจ บางเล่มอ่านแล้วเราไม่เห็นด้วยกับที่ผู้เขียนเฉลยไว้ แล้วแถมเขาก็ไม่ได้เขียนคำอธิบายไว้ ก็ งงๆ ต่อไป แล้วก็ข้ามๆไป จากการอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการสอบวัดระดับมาจำนวนมาก ทำให้ผมค้นพบเทคนิคการทำคะแนนให้สูงขึ้น มากขึ้น เร็วขึ้น อย่างเช่นการฟัง ผมก็ทำข้อสอบได้เต็มมาแล้วหลายครั้ง หรืออย่างการอ่าน รอบที่ผ่านมา ตอนทำข้อสอบการอ่าน ขนาดไรอั้นสุน เซนเซทำๆไปแล้วง่วงก็เลยนอน นอนแล้วตื่นมาทำต่อ ทำเสร็จแล้วนอนต่ออีกที ตื่นมาเวลายังไม่หมด และแม้จะหลับ 2 ตื่น แต่ไรอั้นสุนเซนเซก็ได้การอ่านเต็ม ดังนั้นความจริงแล้ว ข้อสอบการอ่านอาจจะง่ายกว่าที่เราคิดก็ได้นะครับ ถ้าเรารู้เทคนิคการตีความ การค้นหาคำตอบ และซ้อมตามเทคนิคนั้นมาจนคล่องมากพอ
2.1 เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้สามารถอธิบายเหตุการณ์ รายงานข้อมูล หรือสิ่งต่างๆของบริษัทได้
อันนี้เราอาจจะต้องเริ่มจากการแปลคำศัพท์เฉพาะทางในงานของเราให้ได้ก่อน ซึ่งศัพท์เฉพาะทางพวกนี้ส่วนมากไม่มีอยู่ในพจนานุกรมครับ ไม่ต้องถึงขนาดศัพท์เฉพาะทางของงานที่เราทำหรอกครับ คำศัพท์ทั่วๆไปก็ยังมีไม่ค่อยครบเลยครับ เพราะในพจนานุกรมของญี่ปุ่นมี 240,000 คำ แต่พจนานุกรมที่ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยใช้กันมากที่สุดมีคำศัพท์อยู่ประมาณ 40,000 คำเท่านั้นเอง ดังนั้น คนที่จำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการทำงานจึงควรมีทักษะวิธีแปลศัพท์เฉพาะทางติดตัวไว้ทุกคน ซึ่งวิธีนี้ไรอั้นสุนเซนเซได้สอนนักเรียนทุกคนในคอร์สล่ามอยู่แล้ว หรือถ้าใครมีเทคนิคของตัวเองก็ใช้เทคนิคนั้นก็ได้ครับ

วันนี้ถึงเท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวไปเตรียมตัวสอน สำหรับวันพรุ่งนี้ก่อน
ไว้วันหลังจะมาต่อนะครับ แต่แฟนเพจนี้มีคนเก่งๆเยอะอยู่ น่าจะสามารถต่อยอดเองได้หลายคนแล้วใช่ไหมหละครับ
สู้ๆครับ ทุกคน

http://www.ryansunsensei.com/archives/2390

-お知らせ ข่าวประกาศ

Copyright© Ryan Sun Sensei คอร์สติวสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นอาจารย์ไรอัน สุน , 2024 All Rights Reserved.