เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานครับ เพราะล่ามรุ่นน้องหลายคนมาปรึกษาผมเรื่องนี้
ส่วนนักเรียนที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ก็อ่านไว้เตรียมตัวเตรียมใจก็ได้ครับ
สำหรับนักเรียนที่ทำงานมานานแล้ว เป็นรุ่นพี่แล้ว ก็อ่านไว้เพื่อทำความเข้าใจ และเอาไว้ใช้ชี้แนะเด็กใหม่ก็ได้ครับ
คำแนะนำเกี่ยวกับการเริ่มทำงานครั้งแรก
ความรู้สึกที่มักเกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานครั้งแรกคือ ความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ไร้ความสามารถ จนทำให้คิดว่าตัวเองอาจจะไม่สามารถทำงานนี้ได้ดี และไม่มีความสุขกับการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าตอนเริ่มทำงานแรกๆ เราอาจจะเป็นคนเดียวในกลุ่มคนรอบๆตัวเราที่เพิ่งจะเคยทำงาน เพราะคนอื่นในทีมเคยทำงานแบบนี้กันมานานแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ว่าคนส่วนมากในทีมจะมีทักษะที่สูงกว่าเรา
ดังนั้นสิ่งที่คนที่เริ่มทำงานแรกๆควรจะทำก็คือการทำความเข้าใจกับสถานการณ์และความรู้สึกเหล่านี้ ว่าตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วนะ เราเป็นคนทำงานแล้ว แต่เราเพิ่งทำงานแรกๆ คนที่เพิ่งทำงานแรกๆหลายๆคนก็มีความรู้สึกเศร้าซึมคล้ายๆเรา รู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถคล้ายๆเรา ขอให้ทำความเข้าใจความรู้สึกในใจของตัวเองอย่างเดียว โดยไม่ต้องพยายามกดความรู้สึกนั้นไว้ ไม่ต้องพยายามคิดโกหกตัวเองว่าเราไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว เพราะการพยายามกดความรู้สึกเหล่านั้น หรือการพยายามโกหกตัวเองว่าไม่รู้สึกแล้วทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ ใจของเราจะเกิดอาการโหย่งๆ คือมันไม่นิ่ง ไม่มั่นคง ดังนั้น ไม่ต้องไปกดความรู้สึกนั้น สิ่งที่เราควรทำคือการรู้ตามเท่านั้น และเมื่อเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะหายไปเอง ซึ่งถ้าเราสังเกตใจเรา พยายามรู้ตามไปเรื่อยๆเราก็จะพบว่าความรู้สึกเศร้าซึมนั้นมันได้หายไปแล้วนะ ซึ่งบางคนอาจจะใช้เวลา 1 เดือน บางคนอาจจะใช้เวลา 1 ปี แต่ละคนไม่เท่ากัน
เมื่อคุณเข้าใจความรู้สึกตนเองแล้ว สิ่งต่อไปที่ควรทำก็คือการ เรียนรู้ การมาทำงานไม่เหมือนกับการไปโรงเรียน เพราะตอนเราไปโรงเรียน เราเอาเงินไปจ่ายเพื่อให้โรงเรียนสอนเรา แต่การมาทำงานช่วงแรกๆที่เรายังไม่มีความรู้นั้น เขาก็ต้องจ่ายเงินเราเพื่อให้เราไปเรียนรู้ ดังนั้นการเรียนรู้งานอาจจะยากกว่าตรงที่ ผู้สอนงานเราก็ไม่ใช่ผู้สอนมืออาชีพ และในขณะที่สอนงานเรา เขาก็ต้องทำงานของเขาไปด้วย จึงไม่สามารถสอนเราได้เต็มเวลา ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง และพยายามดูรุ่นพี่ทำงาน วิธีไหนที่ดีก็นำมาปรับใช้ในแบบของตัวเอง ในบริษัทญี่ปุ่นหลายๆบริษัทมีแนวคิดที่เหมือนๆกันว่า ในการอบรมสั่งสอนพนักงานเข้าใหม่ ต้องใช้ 5 ปี จึงจะสามารถใช้งานได้ แนวคิดนี้สื่อให้เห็นถึงความเข้าใจที่ว่า การเรียนรู้ต้องใช้เวลา การเรียนรู้ก็เหมือนกับการปลูกไม้ผล ถ้าอยากกินผลไม้ที่หอมหวาน เราก็ต้องรอมันสุก เรื่องบางเรื่องเร่งไม่ได้ ต้องรอสุก อย่างการอบรมนี่ก็เหมือนกัน
ขอให้ผู้อ่านทุกคนเริ่มงานได้อย่างมีความเข้าใจ ทั้งเข้าใจในตัวเอง และ เข้าใจการทำงาน เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านไปได้ครับ คราวหน้าผมจะมาเขียนว่า ถ้าเราผ่านช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นนี้ไปได้แล้ว เราควรตั้งเป้าหมายอะไรต่อไป